การเขียนแบบภาพตัด
สาระการเรียนรู้
ในการเขียนแบบภาพตัด
บางครั้งจะพบกับงานที่มีลักษณะซับซ้อนอยู่มาก ไม่สามารถอ่านภาพและเขียนแบบได้
โดยเฉพาะภาพที่มีเส้นประจำนวนมาก
ดังนั้นเพื่อให้การมองภาพภายในได้อย่างชัดเจนและทำความเข้าใจกับแบบงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
จึงเขียนภาพที่สามารถแสดงรายละเอียดภายในได้อย่างชัดเจนและทำความเข้าใจกับแบบงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
จึงเขียนภาพที่สามารถแสดงรายละเอียดภายในได้อย่างชัดเจน ภาพนี้เรียกว่า
"ภาพตัด"
เนื้อหา
1. ความหมายของภาพตัด
2. ส่วนประกอบของภาพตัด
3. ชนิดของภาพตัด
4. ภาพตัดลักษณะพิเศษ
5. ชิ้นงานที่ได้รับการยกเว้นการตัด
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกความหมายของภาพตัดได้
2. อธิบายส่วนประกอบของภาพตัดได้
3. เขียนภาพตัดชนิดต่างๆ ได้
4. สามารถเขียนภาพตัดลักษณะพิเศษได้ถูกต้อง
5.
สามารถเขียนภาพตัดชิ้นงานที่ได้รับการยกเว้นการตัดได้
ชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อนหรือมีส่วนที่ถูกบังไว้
เมื่อทำการเขียนแบบส่วนที่ถูกบังไว้ต้องเขียนเป็นเส้นประ
ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากสับสนในการเขียนแบบและอ่านแบบได้ ดังนั้น
จึงนำภาพนั้นมาเขียนเป็นภาพตัด เพื่อสามารถแสดงส่วนที่ถูกบังไว้
หรือรูปร่างภายในชิ้นงานได้อย่างชัดเจน
1. ความหมายของภาพตัด
ภาพตัด หมายถึง
การผ่าหรือตัดเนื้อวัสดุงานเพื่อแสดงรายละเอียดรูปร่างชิ้นงานภายใน เช่น รูเจาะ
รูคว้าน ร่องลิ่ม หรือแสดงลักษณะประกอบกันของชิ้นส่วนเครื่องจักรกลต่างๆ
เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน
ในการเขียนแบบ
การฉายภาพรายละเอียดเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับงานเขียนแบบซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตชิ้นงานสามารถทำได้ถูกต้องยิ่งขึ้น
ดังนั้น เทคนิคในการเขียนแบบที่สามารถแสดงรายละเอียดภายในชิ้นส่วนต่างๆ คือ
การสมมุติว่า ให้ชิ้นงานถูกตัดออกและภาพที่สมมุติให้ตัดนั้นเรียกว่า ภาพตัด
โดยสมมุติให้มีแผ่นกระจกระนาบตัดผ่านตรงกลางวัตถุ
2. ส่วนประกอบของภาพตัด
การเขียนภาพตัดเป็นการเขียนแบบภาพฉายด้านที่ต้องการแสดงให้เห็นรายละเอียดภายในชิ้นงานซึ่งมีส่วนประกอบดังนี้
2.1 สัญลักษณ์เส้นลายตัด
จะเขียนด้วยลายเส้นเต็มบางเอียงทำมุม 45 องศากับแนวระดับ
โดยมีระยะห่างระหว่างเส้นเท่ากันสม่ำเสมอในพื้นที่หน้าตัด
2.2 เส้นแนวตัด
เป็นเส้นสมมติว่าตัดชิ้นงานผ่านแนวระนาบ แทนด้วยเส้นลูกโซ่หนัก
ส่วนทิศทางการมองภาพจะเขียนด้วยหัวลูกศร
ซึ่งเขียนด้วยเส้นเต็มหนักชี้เข้าหาเส้นแนวตัด
ที่ปลายทั้งสองข้างมีตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่แสดงกำกับอยู่ข้างลูกศรด้วย
3. ชนิดของภาพตัด
ภาพตัดที่เขียนในแบบงานมีหลายชนิด
การที่จะเขียนภาพตัดชนิดไหนนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของงานแต่ละชนิด
และความต้องการแสดงรายละเอียดส่วนใดของงาน ภาพตัดที่เขียนในแบบงาน มีดังนี้
3.1 ภาพตัดเต็ม (FULL
SECTION)
ภาพตัดเต็ม
เป็นภาพที่ต้องการแสดงรายละเอียดภายในตลอดเต็มหน้าของชิ้นงานเสมือนผ่าแบ่งครึ่งชิ้นงานให้แยกออกจากกัน
3.2 ภาพตัดครึ่ง (HALF
SECTION)
เป็นภาพที่ตัดวัตถุออก 1 ใน 4 ส่วนของภาพ
ภาพตัดครึ่งนี้ส่วนมากจะใช้ตัดวัตถุที่สมมาตรกัน เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น
โดยตัดแยกตามเส้นศูนย์กลาง ส่วนที่ไม่ถูกตัดจะเขียนเป็นภาพปกติ
ไม่ใช้เส้นประในภาพตัดครึ่ง จะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
3.3 การกำหนดขนาดรูเจาะ
สามารถกำหนดขนาดโดยใช้เส้นกำหนดขนาด ซึ่งมีหัวลูกศรข้างเดียว
ปลายหางของลูกศรจะต้องลากให้เกินเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กน้อย
3.4 ภาพตัดเยื้องศูนย์ (OFFSET
SECTION)
ภาพตัดเยื้องจะมีลักษณะพิเศษคือระนาบตัดเยื้องจะไปตามส่วนที่จะตัดส่วนที่สำคัญต่างๆ
ของชิ้นงาน ภาพตัดเยื้องมีข้อดีคือ สามารถแสดงรูปร่างลักษณะ รูเจาะ
หรือส่วนที่อยู่ภายในที่มีตำแหน่งไม่ได้อยู่ในแนวเดียวกัน มาร่วมแสดงให้เห็นในแนวเดียวกัน
4. ภาพตัดลักษณะพิเศษ
4.1 ภาพตัดเฉพาะส่วน (PARTIAL
SECTION)
ภาพตัดเฉพาะส่วนเป็นภาพตัดเพื่อแสดงรายละเอียดลักษณะรูปร่างที่อยู่ภายในชิ้นงานเฉพาะ
บางทีก็เข้าใจแบบงานได้ เช่น บริเวณรูเจาะ ร่องลิ่ม
การเขียนภาพตัดเฉพาะส่วนทำได้โดยการเขียนเส้นมือเปล่า (FREE
HAND) เฉพาะบริเวณที่ต้องการแสดงรายละเอียด
4.2 ภาพตัดหมุนข้าง (ROTATED
SECTION)
ภาพตัดหมุนข้าง
เป็นภาพการเขียนเพื่อแสดงรูปร่างหน้าตัดของชิ้นงานที่มีลักษณะเป็นท่อนยาว
ทำได้โดยตัดบริเวณนั้น แล้วหมุนหน้างานไป 90 องศา เพื่อสามารถเข้าใจลักษณะหน้าตัดนั้นอย่างชัดเจน
หรือยังสามารถเห็นลักษณะรูปร่าง สัดส่วนของชิ้นงานได้ตามปกติ
4.3 ภาพตัดหมุนเคลื่อน (REMOVEL
SECTION)
ภาพตัดหมุนเคลื่อน
เป็นภาพตัดที่ใช้ในกรณีที่ชิ้นงานมีรายละเอียดแต่ละช่วงแตกต่างกัน
และต้องการแสดงให้เห็นพื้นที่หน้าตัดของแต่ละช่วงนั้น เพราะไม่สามารถแสดงโดยภาพตัดหมุนข้างได้
จะทำให้ยุ่งยากในการอ่านแบบ จึงจำเป็นต้องยกออกมาแสดงให้เห็น
4.4 ภาพตัดหมุนโค้ง (ALIGNED
SECTION)
ภาพตัดหมุนโค้ง
เป็นภาพตัดที่แสดงรายละเอียดของส่วนที่เอียงหรือบิดไปจากแนวศูนย์กลาง
โดยการหมุนโค้งหรือลากเส้นฉายให้มาอยู่ในระนาบเดียวกัน
4.5 ภาพตัดย่อส่วน (CONVENTIONAL
SECTION)
สำหรับวัตถุที่มีรูปร่างยาวมากๆ
เช่น งานเพลากลม ท่อกลม แท่งโลหะ
ถ้าเขียนความยาวจริงทั้งหมดลงไปในกระดาษเขียนแบบจะไม่สามารถกระทำได้
เนื่องจากกระดาษเขียนแบบมีพื้นที่จำกัด ในลักษณะเช่นนี้ สามารถแก้ไขได้โดยใช้วิธีการตัดย่อส่วน
การตัดย่อส่วนนี้จะย่อเฉพาะความยาว หน้าตัดของงานยังคงเดิมโดยจะย่อตรงกลางรูป
มาตราส่วนต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม
ลักษณะการตัดย่อรูปจะมีการเขียนแตกต่างกันไปตามลักษณะของวัตถุนั้น
5. ชิ้นงานที่ได้รับการยกเว้นการตัด
การเขียนแบบในชิ้นงานบางประเภท เช่น ซี่ล้อ
หรือแขนพวงมาลัย จะเห็นว่า ถ้าตัดในแนวของการตัดจริงๆ
จะทำให้เกิดความยุ่งยากในการอ่านและเขียนแบบอย่างมาก ดังนั้นในงานเขียนแบบจึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น